7 สิ่งที่ทำให้คริสต์มาสมีความหมายกับคนไทย

7 สิ่งที่ทำให้คริสต์มาสมีความหมายกับคนไทย

 

1. เรื่องราวคริสต์มาสเป็นเรื่องจริง  ไม่ใช่ตำนานหรือเรื่องเล่าปากต่อปากต่อๆกันมา ซึ่งเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สมัยจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิ “อิมแปราตอร์ ไกซาร์ ดีวี ฟีลิอุส เอากุสตุส” (Avgvtvs) [ครอง 27 ก.ค.ศ.-ค.ศ. 14] ชื่อเดิม “ออคเตเวียส” เป็นจักรพรรดิองค์แรกของของจักรวรรดิโรมัน

และได้นำเอาชื่อของตนเองมาตั้งเป็นชื่อในเดือนสิงหาคม (August) และโรมันเองเรืองอำนาจและก็ยังครอบครองอิสราเอลและตอนนั้นก็มีคำสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดินอิสราเอลตามบันทึกในพระคัมภีร์ลูกา บทที่ 2:1-4 และปี ค.ศ. ที่ 0 นับเอาปีที่พระเยซูประสูตินั่นเอง แสดงว่าหลักฐานการบันทึกทางประวัติศาสตร์เป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ว่า พระเยซูเป็นบุคคลที่เกิดมาในโลกนี้จริงๆ ไม่ใช่การสมมติหรือนิทานปรัมปราหรือเป็นเพียงเรื่องเล่าแต่อย่างใด

 

2. คริสต์มาสไม่ใช่การฉลองวันเกิดซานตาครอส แต่เป็นวันเกิดพระเยซู ที่โยเซฟยอมรับมารีย์คู่หมั้นที่ตั้งครรภ์โดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้และให้ทั้งสองเรียกนามพระกุมารนั้นว่า “เยซู” แปลว่า “ผู้ช่วย” พระองค์เป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด เกิดที่เมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย ทางตอนใต้ของเยรูซาเล็มเมืองหลวง ซึ่งโยเซฟและนางมารีย์ต้องเดินทางจากเมืองนาซาเรธ แคว้นกาลิลีที่อยู่ทางทิศเนือของเยรูซาเล็ม ของประเทศอิสราเอลลงมาเพื่อทำการจดทะเบียนสำมะโนที่เบธเลเฮม ซึ่งถิ่นฐานเกิดของตัวเองตามเผ่าพันธุ์กษัตริย์ดาวิดที่ทรงได้ครอบครองอิสราเอลเมื่อประมาณหนึ่งพันปีก่อนหน้านั้น ลองจินตนาการดูว่ามีกษัตริย์องค์ใดที่จะยอมถ่อมใจมาประสูติในคอกสัตว์ และยอมนอนผ้าอ้อมอยู่ในรางหญ้าของสัตว์ และการประสูติก็เกิดในคอกสัตว์เพราะไม่มีที่ว่างเหลือให้พักแล้วในช่วงนั้นที่อากาศก็แสนเหน็บหนาว

 

3. คริสต์มาสไม่ใช่เป็นเรื่องเพียงแค่ความสนุกสนาน หิมะหรือฤดูหนาว แต่เป็นเรื่องของความเชื่อที่เกิดจากการได้ยิน การได้เห็น การบอกเล่า ทั้งของโยเซฟ มารีย์ คนเลี้ยงแกะ ต่อมาก็มีโหราจารย์และนักปราชญ์ แม้แต่นางอันนาผู้เผยพระวจนะ ผู้รอคอยพระเจ้า หรือสิเมโอนที่ได้เห็นพระกุมารด้วยสายตาของตัวเอง และของผู้คนที่ได้รับการบอกกล่าว ชีวิตหนึ่งที่เกิดมาแล้วได้พบความหมายที่แท้จริงของการมาเกิดของคนๆหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลกและที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวผู้ที่ได้พบพระองค์นั้น จึงนับว่าเป็นสิ่งล้ำค่าและประเสริฐที่สุดยิ่งแล้วของมนุษย์คนหนึ่งที่ได้เกิดมาบนโลกนี้ พระเจ้าผู้ทรงสร้างฤดูกาลองค์นี้ได้ทรงมาเยี่ยมเยียนมนุษย์แล้วในเทศกาลที่สำคัญยิ่งนี้

4.คริสต์มาสไม่ใช่แค่เพียงการส่งคำอวยพรหรือของขวัญ แต่เป็นเรื่องราวความรักและการให้อภัย เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเมื่อได้ยิน คือมนุษย์ต้องรับความรักและการอภัยรวมทั้งการอวยพรจากพระเจ้าก่อนจึงจะสามารถไปมีชีวิตที่สามารถอวยพรคนอื่นต่อไปได้ แม้แต่มารีย์ที่พระเจ้ามาโปรดปรานและสถิตอยู่ด้วยยังตกใจเมื่อทูตสวรรค์มากล่าวแก่นางใน ลูกา 1:30 ว่า “มารีย์เอ๋ย อย่ากลัวเลยเพราะเธอเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน” ยังเรียนรู้ที่จะยอมฟังพระเจ้าและรับการอวยพรแบบนี้และจึงได้เป็นพระพรต่อคนอื่นต่อไปอีก และลูกา 2:10 ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดียิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย” การได้รู้ว่าเราฉลองวันเกิดของใคร น่าจะสำคัญกว่า การฉลองเพียงแค่ของขวัญ การ์ด แต่ไม่รู้ว่าตัวเราเองกำลังฉลองวันเกิดใคร และนั้นคือที่มาของความยินดีที่แท้จริง นักปราชญ์และโหราจารย์จากทิศตะวันออกของอิสราเอลที่ได้ดั้นด้นตามหาพระกุมารเยซูไม่ได้มานมัสการมือเปล่า แต่ได้นำของขวัญสามอย่างที่เป็นหมายสำคัญว่าพระเยซูทรงเป็นกษัตริย์คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ (มัทธิว2:11) พระองค์ไม่เพียงแต่เป็นพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ที่ครอบครองโลกและจักรวาลแต่พระองค์ยังปรารถนาที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองหัวใจท่านด้วยความรักด้วย

5. คริสต์มาสไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่งประดับไฟที่สวยงาม แต่เป็นเรื่องความรอดและคำพยาน ความรอดคือการรอดจากบาปที่พระเจ้าจัดเตรียมให้แก่มนุษย์ทุกคนที่เชื่อในการตายไถ่บาปของพระเยซูคริสต์ (ลูกา 2:30 เพราะว่าตาของข้าพระองค์ได้เห็นความรอดของพระองค์แล้ว) คำพยานเป็นเรื่องราวชีวิตจริงของผู้ที่ได้พบพระเยซู รับการสัมผัสและเปลี่ยนแปลงอย่างอัศจรรย์และเล่าต่อกันฟัง นั้นคือการรับการประดับตกแต่งใหม่ในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งโดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงภายในเริ่มจากจิตวิญญาณก่อนการประดับภายนอก หวังว่าในเทศกาลเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติที่ฉลองและจดจำสืบต่อกันมาถึงสองพันปีนี้นั้น ปีนี้มือของท่านจะได้รับของขวัญที่แท้จริงนี้คือ “พระเยซู” เป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัว และตาของท่านจะเห็นไฟแสงสว่างแห่งความรอดที่แท้จริงในปีนี้

6. คริสต์มาสเป็นเรื่องของฤทธิ์เดชที่เหนือธรรมชาติ ที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ พระเจ้าทรงนำโหราจารย์ด้วยดาวประหลาดที่เกินความเข้าใจ การปฏิสนธิของสาวพรหมจารีมารีย์ก็เป็นสิ่งอัศจรรย์และชี้ให้มนุษย์ตระหนักว่าใครเป็นผู้สร้างมนุษย์และมนุษย์เองมาจากไหน ฤทธิ์เดชอีกอย่างที่สำคัญยิ่งคือการรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านเองโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตามพระธรรมลูกา 1:37 “เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้” ท่านสามารถมารู้จักพระเจ้าองค์นี้ได้ ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ชีวิตของท่านจะมีปัญหาใหญ่หลวงแค่ไหน พระองค์ทำได้

7.คริสต์มาสเป็นสิ่งที่พระเจ้าเริ่มต้นทำกับมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ทำให้พระเจ้า เพื่อนำสันติสุขที่แท้จริงมายังมนุษย์ผู้ที่ไม่เคยประสบการณ์กับการมีพระเจ้าสถิตอยู่ด้วย (อิมมานูเอล) เพื่อนำการโปรดปรานมายังมนุษย์คนบาปที่ไม่สมควรได้รับและมีความกลัวในจิตใจ เพื่อนำพระสิริมายังโลกนี้ที่พระองค์ทรงสร้างและสรรพสิ่ง และมนุษย์ เพื่อการสรรเสริญที่สมควรแด่องค์ผู้สูงสุดในสวรรค์และแผ่นดินโลก ยอห์น 3:16

 

Cr. ออปศรา คริสตรไชย

พระเจ้ามีจริง และพระองค์ทรงรักคุณ

มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ แต่หากคุณได้เริ่มต้นแสวงหาพระเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเปิดเผยพระประสงค์ในชีวิตของคุณให้กับคุณได้รู้ พระองค์ต้องการช่วยคุณจริงๆ และในวันนี้ขอให้คุณได้เข้ามาหาพระองค์

เริ่มรู้จักพระเจ้าได้ที่นี่ FacebookTwitterGoogle PlusLine

สนใจรู้จักพระเจ้ามากขึ้น...?