อัตราการหย่าร้างในประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 333 คู่ จากสถิติปี 2560
“การแต่งงานเป็นเรื่องคนสองคน” มองในมุมหนึ่งก็เหมือนจะใช่ แต่สำหรับคริสเตียนก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว เพราะการแต่งงานในทางคริสเตียนนั้นเริ่มต้นด้วยคำมั่นสัญญาต่อพระพักตร์พระเจ้าว่าจะซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
การหลอมรวมคนสองคนให้เป็น “หนึ่งเดียวกัน” ในมิติฝ่ายวิญญาณ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายจำนนต่อพระเจ้าและต่อซึ่งกันและกันเท่านั้น ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่มีเฉพาะคำว่า “ฉัน หรือ ของฉัน” เท่านั้น แต่เป็นความสัมพันธ์ที่มีแต่คำว่า “เรา และ ของเรา” เท่านั้น
สิ่งที่คู่สมรสต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือ การมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า
“พระเจ้าจะช่วยเราให้รักกันและกันมากขึ้น”
ในการแต่งงานไม่ใช่เพียงข้อดีและความน่ารักของคนรักของเราเท่านั้นที่เราจะต้องเจอ แต่รวมถึงจุดอ่อน และความไม่น่ารักบางอย่างของเขาหรือเธอด้วย และความจริงที่เราต้องเผชิญนี่แหละที่ต้องใช้ความรัก และความอดทนเป็นอย่างมากในการยอมรับกันและกัน เพียงแค่การปรับตัวเข้าหากันก็ว่ายากแล้ว ยังต้องมาเผชิญปัญหาต่างๆร่วมกันก็ยากไปอีก ความยากและท้าทายหลายอย่างในชีวิตแต่งงานไม่ใช่เพียงบทเรียนที่ทำให้ชีวิตคู่ของเราเติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบในแง่ลบด้วย สำหรับบางคู่ที่ไม่สามารถผ่านช่วงเวลายากๆไปได้ก็ลงเอยด้วยการหย่าร้างในที่สุด
สถิติของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ในปี 2547 มีอัตราการหย่าร้างร้อยละ 24 โดยมีผู้จดทะเบียนสมรส 365,721 คู่ จดทะเบียนหย่า 86,982 คู่ ล่าสุดในปี 2560 อัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 41 มีผู้จดทะเบียนสมรส 297,501 คู่ หย่า 121,617 คู่ เฉลี่ยหย่าวันละ 333 คู่ สาเหตุของการหย่าร้างในปัจจุบันนี้ อาจเนื่องมาจากลักษณะของครอบครัวยุคใหม่ เป็นครอบครัวเดี่ยวคืออยู่กันเฉพาะพ่อแม่ลูก ทำให้มีความเปราะบาง และจากแรงกดดันภายนอก สามีภรรยาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการทำงานนอกบ้าน อาจเกิดความเครียดทั้งจากหน้าที่การงาน สภาวะสังคมและเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันความอดทนต่อปัญหาในครอบครัวอาจน้อยลง
พระเจ้าบอกความหมายของความรักไว้ในพระคัมภีร์ว่า คือการอดทนนาน
“ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ความรักทนได้ทุกอย่าง
เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ”
1 โครินธ์ 13:4, 7
การมีเพียงคนสองคนในการใช้ชีวิตคู่นั้นยังไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในชีวิตคู่ของเราด้วย พระเจ้าจะช่วยให้เรารักกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข และอดทนต่อกันและกันได้ คงยากที่เราจะรักอีกคนอย่างไม่เงื่อนไขได้ แต่เราทำได้โดยการเข้ามาหาพระเจ้าและให้พระองค์ช่วยเรา ผู้เดียวที่มีความรักที่ไม่มีเงื่อนไขคือ พระเจ้า ฉะนั้นพระองค์ก็เป็นผู้เดียวที่เข้าใจและรู้ว่าจะรักแบบไม่มีเงื่อนไขได้นั้นต้องทำอย่างไร
ถ้าสงสัยว่าการรักแบบไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าเป็นอย่างไร
ให้ดูที่การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเพื่อคนที่มีความบาปอย่างคุณและฉัน
“แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา”
โรม 5:8
พระเจ้าไม่ได้รักคุณเพราะว่าคุณดีพอ แต่พระเจ้ารักคุณแม้ว่าคุณจะไม่ดีพอ
หากคุณอยากเข้าใจและรู้ความรักของพระเจ้ามากขึ้นลองหาพระคัมภีร์ไบเบิลสักเล่มมาอ่าน หรือทักมาเราได้ที่เพจ รู้จักพระเจ้า
พระเจ้ามีจริง และพระองค์รักคุณ
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ แต่หากคุณได้เริ่มต้นแสวงหาพระเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเปิดเผยพระประสงค์ในชีวิตของคุณให้กับคุณได้รู้ พระองค์ต้องการช่วยคุณจริงๆ และในวันนี้ขอให้คุณได้เข้ามาหาพระองค์ สามารถพูดคุยกับเราเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/knowgod.in.th/