“พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต
และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์
ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด
และความมืดไม่อาจเอาชนะความสว่างได้…
ความสว่างแท้ที่ทำให้มนุษย์ทุกคน
เห็นความจริงได้นั้นกำลังเข้ามาในโลก
พระองค์ทรงอยู่ในโลก
ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาทางพระองค์
แต่โลกไม่รู้จักพระองค์
พระองค์เสด็จมายังบ้านเมืองของพระองค์
แต่ชาวบ้านชาวเมืองของพระองค์ไม่ต้อนรับพระองค์
แต่ทุกคนที่ยอมรับพระองค์
คือคนที่เชื่อในพระนามของพระองค์นั้น
พระองค์ก็จะประทานสิทธิ
ให้เป็นลูกของพระเจ้า”
(ยอห์น 1:4-5, 9-12)
คริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งความชื่นชมยินดีที่มีการเฉลิมฉลองกันทั่วโลก ห้างสรรพสินค้าต่างๆ พากันประดับประดาด้วยต้นคริสต์มาสและเปิดเพลงคริสต์มาสกันทั่วไปโดยที่น้อยคนจะสนใจเนื้อหาของเพลงและเจ้าของวันเกิดที่ทุกคนร่วมฉลองกันอยู่ เมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่านมามีเด็กชายคนหนึ่งบังเกิดมาในโลกที่วุ่นวาย สับสน ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศอิสราเอลที่ไม่มีที่พักว่างเลยสำหรับคนเดินทาง เขาเกิดมาในโรงวัวที่มีเพียงรางหญ้าเป็นที่พักพิง เนื่องจากคำทำนายว่าจะมีกษัตริย์มาประสูติผู้จะนำการปลดปล่อยมาสู่ชนชาติของพระองค์ในเวลานั้น เด็กชายที่เกิดมาในช่วงนั้นจึงถูกแสวงชีวิตโดยกษัตริย์เฮโรดมหาราช ในขณะที่นักปราชญ์จากดินแดนตะวันออกและบรรดาคนเลี้ยงแกะซึ่งเป็นตัวแทนของทุกชนชั้นตั้งแต่ระดับบนจนถึงรากหญ้าได้รับสิทธิพิเศษให้มาต้อนรับผู้ปลดปล่อยนั้น-เด็กชายที่เพิ่งถือกำเนิดมาในโรงวัวแห่งเมืองเบ็ธเลเฮ็ม!
“พระวาทะทรงเกิดเป็นมนุษย์
และทรงอยู่ท่ามกลางเรา
เราเห็นพระสิริของพระองค์ คือ
พระสิริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของพระบิดา บริบูรณ์ด้วยพระคุณและความจริง…
คือว่าเราได้ธรรมบัญญัตินั้นมาทางโมเสส
ส่วนพระคุณและความจริงมาทางพระเยซูคริสต์”
(ยอห์น 1:14, 17)
พระเยซูคริสต์คือบุคคลที่โลกเฉลิมฉลองวันประสูติของพระองค์มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนพระคุณและความจริงที่ถูกกล่าวถึงว่ามาทางพระองค์นั้นคืออะไร? พระคุณคือสิ่งที่โลกไม่สมควรจะได้รับแต่พระเจ้าประทานให้ และความจริงคือ พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเสด็จเข้ามาในโลกเพื่อปลดปล่อยมนุษยชาติออกจากพันธนาการของความบาปโดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่านมารับโทษแทนคนบาปอย่างพวกเรา
“เพราะว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย
แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์
ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
(โรม 6:23)
แล้วทรงพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ปราศจากบาปและมีชัยชนะเหนือความตายด้วยการคืนพระชนม์ในวันที่สามหลังจากสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระคุณและความจริงนี้จะเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร?
“ทุกคนที่ยอมรับพระองค์
คือคนที่เชื่อในพระนามของพระองค์นั้น
พระองค์ก็จะประทานสิทธิให้เป็นลูกของพระเจ้า”
(ยอห์น 1:12)
เราจะได้รับการปลดปล่อยจากอำนาจของความบาปที่ทำให้เราต้องตายฝ่ายวิญญาณและได้รับชีวิตนิรันดร์ได้โดยการต้อนรับพระเยซูคริสต์ เชื่อในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อเรา วิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้คือ บอกกับพระเยซูด้วยคำอธิษฐานทำนองนี้ว่า
“พระเยซูคริสต์เจ้า ลูกขอต้อนรับพระองค์
เข้ามาในชีวิตเพื่อเป็นพระเจ้าของลูก
ขอบพระคุณที่ทรงสิ้นพระชนม์
แทนความบาปของลูก
ขอทรงครอบครองชีวิตของลูก
และทรงนำให้ลูกดำเนินชีวิตตามพระประสงค์
ของพระองค์เถิด อาเมน”
คริสต์มาสปีนี้จะมีความหมายที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปถ้าเราได้รู้จักและต้อนรับเจ้าของวันประสูตินี้เป็นส่วนตัวโดยการอธิษฐานดังกล่าวมาแล้วข้างต้น เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่าคริสต์มาสเปลี่ยนชีวิตได้จริงหรือไม่?
Cr. ศาสนาจารย์ ดร. พัชรินทร์ ชัชมนมาศ
พระเจ้ามีจริง และพระองค์ทรงรักคุณ
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ แต่หากคุณได้เริ่มต้นแสวงหาพระเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเปิดเผยพระประสงค์ในชีวิตของคุณให้กับคุณได้รู้ พระองค์ต้องการช่วยคุณจริงๆ และในวันนี้ขอให้คุณได้เข้ามาหาพระองค์
เริ่มรู้จักพระเจ้าได้ที่นี่ FacebookTwitterGoogle PlusLine