ฉันจะต้องเตรียมพร้อมอย่างไรเพื่อจะถูกรับขึ้นไปสวรรค์ ?

คำถาม: ฉันจะต้องเตรียมพร้อมอย่างไรเพื่อจะถูกรับขึ้นไปสวรรค์ ?

คำตอบ: มันง่ายมากกว่าที่คุณคาดคิด คำตอบสั้น ๆ คือว่า คุณต้องต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด ตอนนี้สำหรับคำตอบยาว เมื่อคุณตั้งคำถามนี้ เราสมมติว่าคุณเคยได้ยินว่า ไม่ใช่คริสเตียนทุกคนจะถูกรับขึ้นไปสวรรค์เมื่อวันนั้นมาถึง คุณอาจจะได้รับคำบอกว่า มีเพียง "คริสเตียนที่ยอดเยี่ยม" เท่านั้นที่ใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์จะถูกรับขึ้นไปสวรรค์ และคริสเตียนอื่นทั้งหมดจะต้องทนทุกข์ตลอดเวลาแห่งความทุกข์ยากครั้งใหญ่ นี้ไม่เป็นความจริง และเราจะแสดงให้คุณเห็นว่า ทำไมสิ่งนี้ไม่เป็นความจริงจากพระคัมภีร์ ประการแรกที่คุณต้องเข้าใจคือ วัตถุประสงค์ของความทุกข์ยากลำบาก ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่เป็นเวลาแห่งการพิพากษาในโลก และการลงโทษชนชาติอิสราเอล โปรดทราบว่าอิสราเอลและคริสตจักรไม่ได้เป็นผู้คนกลุ่มเดียวกัน คริสตจักรเป็นองค์กรฝ่ายจิตวิญญาณ ผู้คนในคริสตจักรมีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากการเกิดฝ่ายจิตวิญญาณของพวกเขา (โดยการเกิดใหม่อีกครั้ง)

ยอห์น 3:3 “พระเยซูตรัสตอบเขาว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่ ผู้นั้นจะเห็นแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้’”

ชนชาติอิสราเอล (ยิว) สัมพันธ์กันโดยสายเลือด นี่คือเชื้อชาติของประชากรผู้ที่พระเจ้าทรงทำสัญญาพิเศษในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงประกาศเวลาแห่งการพิพากษาอิสราเอลสำหรับความไม่สัตย์ซื่อของพวกเขา เวลาแห่งการพิพากษานี้ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าสำหรับชนชาติอิสราเอลเท่านั้น

ดาเนียล 9:24-27 “มีเจ็ดสิบสัปตะแห่งปีกำหนดไว้สำหรับชนชาติของ ท่านและนครบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อให้เสร็จสิ้นการทรยศ ให้บาปจบสิ้น และให้ลบมลทิน เพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์เข้ามา เพื่อประทับตราทั้งนิมิตและคำ ของผู้เผยพระวจนะไว้ และเพื่อจะเจิมสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เพราะฉะนั้นจงทราบและเข้าใจว่า นับตั้งแต่การที่ถ้อยคำนั้นออกไป ให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่จน ถึงสมัยผู้ถูกเจิมไว้ ผู้เป็นประมุขก็เป็นเวลาเจ็ดสัปตะ และเยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยลานเมืองและคู เป็นเวลาหกสิบสองสัปตะแต่ในยุคลำบาก หลังจากหกสิบสองสัปตะแล้ว ท่านผู้หนึ่งที่ถูกเจิมไว้ จะต้องถูกตัดออกและจะไม่มีอะไรสำหรับท่าน และประชาชนของประมุขผู้หนึ่งที่ จะมานั้น จะทำลายกรุง และสถานศักดิ์สิทธิ์เสีย ที่สุดปลายของมันจะมาถึงด้วยน้ำท่วม จนกระทั่งที่สุดจะมีสงคราม มีความวิบัติกำหนดไว้ ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอัน มากอยู่หนึ่งสัปตะ ท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆ หยุดไปครึ่งสัปตะ ผู้ที่จะกระทำให้เกิดความวิบัตินั้น จะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียน จนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูก เทลงเหนือผู้กระทำให้เกิดความวิบัตินั้น”

กาเบรียลได้นำข่าวสารจากพระเจ้าไปยังดาเนียล

ดาเนียล 9:20-21 “ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูด กำลังอธิษฐานและสารภาพบาปของข้าพเจ้า และบาปของอิสราเอล ประชากรของข้าพเจ้า และเสนอคำวิงวอนของข้าพเจ้าต่อ พระเยโฮวาห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อภูเขาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่นั้นเออ ขณะเมื่อข้าพเจ้ากล่าวคำอธิษฐานอยู่ ชายที่ชื่อ กาเบรียลซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตครั้งแรกนั้น ได้บินอย่างเร็วมาใกล้ข้าพเจ้าในเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น”

ในข่าวสารนี้กาเบรียลระบุกับดาเนียลว่า เป็นเวลา "สำหรับประชากรของเจ้า" คนของดาเนียลเป็นชาวยิว ชนชาติอิสราเอล พระเจ้าทรงประกาศเวลา 70 สัปดาห์ต่อต้านชนชาติอิสราเอล

เวลา "70 สัปดาห์" นี้ตามตัวอักษรในภาษาฮิบรู "70 คูณ 7" อีกนัยหนึ่ง 70 ครั้งใน 7 ปีหรือ 490 ปี ในบรรดาปีทั้งหลาย 483 ปี (69 ครั้ง 7) ของพวกเขาสำเร็จแล้วจากจุดสิ้นสุดการเป็นเชลยของอิสราเอลในบาบิโลน จนถึงเวลาที่ถูกตัดขาดจากพระเจ้า (การตรึงกางเขนของพระเยซูคริสต์) ปล่อยให้เป็นเวลาแห่งการพิพากษา 7 ปีที่ยังทำไม่สำเร็จ บรรดา 7 ปีเหล่านั้นเป็นปีแห่งความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่

ประเด็นก็คือว่า คำทำนายนี้เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในตอนเริ่มแรก และวัตถุประสงค์ของการพิพากษาคือ " เพื่อให้การละเมิดบาปเสร็จสิ้น เพื่อสิ้นสุดความบาป เพื่อทำการลบมลทินของความชั่วช้า เพื่อที่จะนำความชอบธรรมนิรันดร์ เพื่อประทับตรานิมิตและคำทำนาย และเพื่อเจิมสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด" ตอนนี้ เรายังสามารถแสดงให้เห็นได้จากพระคัมภีร์ว่า คริสเตียนจะไม่อยู่ในเวลาแห่งความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่

1เธสะโลนิกา 4:13-5:9 “ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านไม่ทราบความจริงเรื่องคนที่ล่วง หลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้า อย่างคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง เพราะในเมื่อเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว โดยพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำบรรดาคนที่ล่วงหลับไปแล้วนั้นมากับพระองค์ ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบ ตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หาไม่ ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยสำเนียงเรียกของเทพบดีและด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์ เหตุฉะนั้นจงปลอบใจกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เรื่องวันและเวลาที่ทรงกำหนดไว้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องเขียนบอกให้ท่านรู้ เพราะท่านเองก็รู้ดีแล้วว่า วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า จะมาเหมือนอย่างขโมยที่มาในเวลากลางคืน เมื่อเขาพูดว่า “สงบสุขและปลอดภัยแล้ว” เมื่อนั้นแหละความพินาศก็จะมาถึงเขาทันที เหมือนกับความเจ็บปวดมาถึงหญิงที่มีครรภ์ เขาจะหนีก็ไม่พ้น แต่พี่น้องทั้งหลาย ท่านไม่ได้อยู่ในความมืดแล้ว วันนั้นจะมาถึงท่านอย่างขโมยมา ท่านเป็นบุตรของความสว่าง และเป็นบุตรของกลางวัน เราทั้งหลายไม่ได้เป็นของกลางคืนหรือของความมืด เหตุฉะนั้นเราอย่าหลับเหมือนอย่างคนอื่น แต่ให้เราเฝ้าระวังและไม่เมามาย เพราะว่าคนนอนหลับก็ย่อมหลับในเวลากลางคืน และคนเมาก็ย่อมเมาในเวลากลางคืน แต่เมื่อเราเป็นของกลางวันแล้วก็อย่าให้เราเมามาย จงสวมความเชื่อกับความรักเป็นเกราะป้องกันอก และสวมความหวังที่จะได้ความรอดเป็น

หมวกเหล็ก เพราะว่าพระเจ้ามิได้ทรงกำหนดเราไว้สำหรับพระอาชญา แต่สำหรับให้เข้าสู่ความรอด โดยพระเยซูคริสตเจ้า

ในพระธรรมตอนนี้ เปาโลเขียนเกี่ยวกับการรับขึ้นไปสวรรค์และวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงใส่ใจกับพระคัมภีร์ข้อสุดท้ายนี้ให้มาก เปาโลกล่าวว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงลิขิตเราสำหรับพระอาชญา โดยเฉพาะการลงโทษในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า (5: 2)

มีหลักฐานเพิ่มเติมว่า คริสเตียนจะไม่เข้าสู่ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ มาจากพระธรรม 1 โครินธ์ ในจดหมายนั้น เปาโลตำหนิบรรดาผู้เชื่ออย่างรุนแรงที่พวกเขาเป็นคริสเตียนฝ่ายเนื้อหนัง แต่ในบทที่ 15 เปาโลเขียนถึงการรับขึ้นไปสวรรค์ และท่านไม่เคยบอกว่า ถึงแม้ว่าผู้เชื่อชาวโครินธ์คนใดก็ตามที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง พวกเขาจะถูกละทิ้งไว้เบื้องหลัง ผู้เชื่อแท้ในพระเยซูคริสต์จะไม่ต้องทนทุกข์ในเวลาแห่งความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่

ทางเดียวที่คุณจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในเวลาแห่งการรับขึ้นไปสวรรค์คือ ถ้าคุณไม่ได้ต้อนรับพระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ

ที่มา: https://www.gotquestions.org

พระเจ้ามีจริง และพระองค์ทรงรักคุณ

มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ แต่หากคุณได้เริ่มต้นแสวงหาพระเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเปิดเผยพระประสงค์ในชีวิตของคุณให้กับคุณได้รู้ พระองค์ต้องการช่วยคุณจริงๆ และในวันนี้ขอให้คุณได้เข้ามาหาพระองค์

สนใจรู้จักพระเจ้ามากขึ้น...?