คริสเตียนเชื่อว่า “พระเจ้าเป็นผู้สร้าง” จักรวาลและสิ่งมีชีวิตขึ้นมา
.
แต่ว่ามีนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนกล่าวว่า “จักรวาลเกิดขึ้นมาได้เองจาก ‘ความว่างเปล่า’ โดยไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้น”
.
.
จักรวาลสามารถเกิดขึ้นมาเองได้จริงมั้ย?
.
นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นสตีเฟน ฮอว์กิ้ง หรือคนอื่นๆ ไม่ได้ค้นพบว่าจักรวาลสามารถเริ่มจากความว่างเปล่าได้ แต่เอาบางสิ่งที่มีคุณสมบัติ “คล้ายกับความว่างเปล่า” เช่น Quantum field มาอ้างว่าเป็นความว่าง แล้วก็เริ่มจักรวาลจากตรงจุดนั้น นั่นแสดงว่าจริงๆแล้ววิธีกำเนิดจักรวาลที่พวกเขาใช้อ้างนั้น ไม่ได้เริ่มต้นจากความว่างเปล่าอย่างแท้จริง เพราะความว่างเปล่าที่แท้จริงนั้น จะต้องไม่มีอะไรเลย ดังนั้นจึงไม่มีทางเลยที่จักรวาลจะเกิดขึ้นมาได้เองจากความว่างเปล่าไม่มีอะไร
.
ต้นกำเนิดที่แท้จริงของจักรวาลนั้นก็คือ จักรวาลได้ “ถูกออกแบบและถูกสร้างขึ้นมา” ผู้ที่จะสร้างจักรวาลอันสวยงามนี้ขึ้นมาจากความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาสูงมากในการคิดออกแบบกฎธรรมชาติอันสลับซับซ้อนจำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถทำงานสอดคล้องกันได้เป็นอย่างดี และยังมีพลังอำนาจในการสร้างพลังงานขึ้นมา รวมทั้งเป็นผู้ใส่พลังงานเริ่มต้นให้กับจักรวาลที่ได้ถูกออกแบบไว้แล้วนั้น
.
.
จักรวาลเกิดจากการทรงสร้างของพระเจ้า
.
พระเจ้าผู้สร้างจักรวาลนั้นเป็นผู้มีสติปัญญาสูงส่งที่สามารถออกแบบกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ เคมี ต่างๆ มากมายที่ซับซ้อน เพื่อให้เกิดจักรวาลที่ประกอบด้วยสรรพสิ่งมากมายอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ ซึ่งในพระคัมภีร์ไบเบิลได้บอกให้เรารู้ว่า….
.
พระเจ้าเป็นผู้สร้างจักรวาล สวรรค์ โลก และสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในโลกนี้ขึ้นมา ข้อความแรกของพระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้ว่า
.
“ในปฐมกาล พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งในฟ้าสวรรค์และโลก” ปฐมกาล1:1
.
พระเจ้าใช้เวลาสร้างจักรวาลและโลก 6 วัน (โดย 1 วัน ไม่ได้จำเป็นต้องเท่ากับ 24 ชั่วโมง อาจหมายถึง “ช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ”)
.
“เพราะในหกวัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างฟ้าและโลก ทะเลและสรรพสิ่งในนั้น แต่ทรงหยุดพักในวันที่เจ็ด ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงอวยพรวันสะบาโตและตั้งให้เป็นวันบริสุทธิ์” อพยพ 20:11
.
โดยพระเจ้าสร้างสิ่งต่างๆในแต่ละวันดังนี้…
วันที่ 1 สร้าง “ความสว่าง” เกิดเป็น “วัน” และ “คืน”
วันที่ 2 สร้าง “ท้องฟ้า”
วันที่ 3 สร้าง “ทะเล” “แผ่นดิน” รวมทั้ง “พืช” บนแผ่นดิน
วันที่ 4 สร้าง “ดวงอาทิตย์” “ดวงจันทร์” และ “ดวงดาว”
วันที่ 5 สร้าง “สัตว์น้ำ” และ “สัตว์ปีก”
วันที่ 6 สร้าง “สัตว์ใช้งาน” “สัตว์เลื้อยคลาน” และ “สัตว์ป่า” รวมทั้งพระเจ้าทรงสร้าง “มนุษย์” ให้เป็นผู้ปกครองดูแลสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
.
พระคัมภีร์ได้บอกว่า พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ และทรงเห็นว่าดียิ่งนัก ดังนั้นจักรวาล โลก มนุษย์ และสัตว์จึงถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีวัตถุประสงค์ ไม่ใช่ผลจากความบังเอิญของธรรมชาติ
.
.
สิ่งที่วิทยาศาสตร์ได้ยืนยันความจริงในพระคัมภีร์
.
① นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่า “จักรวาลมีจุดเริ่มต้น”
.
เมื่อมีจุดเริ่มต้น นั่นก็แสดงว่า พระคัมภีร์ถูกต้อง ในขณะที่หลายความเชื่อนั้นบอกว่าจักรวาลมีอยู่แล้ว ซึ่งขัดแย้งกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับ
.
การมีจุดเริ่มต้นของจักรวาล นั่นแสดงว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากไม่มีอะไรเลย ซึ่งต้องมีการใส่พลังงานและสสารต่างๆเข้ามาในระบบจักรวาล รวมทั้งต้องมีกฎธรรมชาติมากมายที่ซับซ้อนอย่างน่ามหัศจรรย์ แต่กลับสอดประสานกันอย่างสวยงาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้เองเลย
.
② Fine Tuning
.
กฎธรรมชาติหลายอย่างมีความละเอียดแม่นยำสูงมาก ถ้าคลาดเคลื่อนไปเพียงนิดเดียว จักรวาลทั้งจักรวาลจะไม่สามารถมีอยู่ได้เลย ความละเอียดแม่นยำอย่างสุดๆ ของกฎธรรมชาตินี้ เรียกว่า Fine Tuning โดยเป็นความแม่นยำในระดับที่สูงอย่างเหลือเชื่อ
.
ยกตัวอย่าง เช่น Cosmological constant หรือ “ค่าคงตัวของจักรวาล” ถ้ามีค่ามากกว่าที่เป็นอยู่นี้ไปเพียงนิดเดียว จะทำให้จักรวาลขยายตัวเร็วเกินไป และทำให้กาแล็กซี่กลุ่มดวงดาวต่างๆ ในจักรวาล ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ในทางกลับกัน หากค่าคงตัวนี้มีค่าน้อยกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว ก็จะทำให้จักรวาลยุบตัวพังทลายลง คือห้ามคลาดเคลื่อนเกิน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าค่าคงตัวนี้จำเป็นต้องมีความละเอียดแม่นยำในระดับ 1 ใน 10110 !!!! (เทียบเท่ากับว่า ถ้าให้ค่าคงตัวนี้มีค่าเท่ากับ 100 ก็จะมีค่าต่างจากนี้ได้ไม่เกิน 0.0000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000001 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยอมรับว่าเป็นไปไม่ได้จริงๆที่จักรวาลนั้นเกิดขึ้นมาเองแล้วจะมีกฎธรรมชาติที่ละเอียดแม่นยำได้ขนาดนี้
.
เรื่อง Fine Tuning นี้ เป็นสิ่งที่กวนใจเหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อพระเจ้าเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ไม่เชื่อพระเจ้าตัวยงระดับโลกอย่าง Christopher Hitchens ก็ยังยอมรับว่า เรื่อง Fine Tuning นี้เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดอันหนึ่งถ้าหากจะคิดว่าจักรวาลนี้เกิดขึ้นมาได้เอง โดยไม่ได้มีพระเจ้าผู้สร้างมันขึ้นมา เขากล่าวยอมรับว่า “ (As for Fine Tuning), You have to spend time thinking about it, working on it. It’s not trivial. We all say that.”
.
นั่นก็คือ Fine Tuning ได้แสดงถึงว่าจักรวาลนี้ต้องมีผู้สร้างมันขึ้นมา และกำหนดกฎธรรมชาติไว้อย่างละเอียดแม่นยำมากๆ จึงทำให้เกิดมีสิ่งต่างๆ ขึ้นมามากมายในจักรวาลอย่างที่เราเห็นอยู่ได้
Arno Penzias เป็นนักฟิสิกส์และดาราศาสตร์ ได้กล่าวไว้ว่า “เหตุการณ์บังเอิญต่างๆ ที่คิดกันว่าจะทำให้เกิดจักรวาลขึ้นมาได้เองนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง ความรู้วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันได้บ่งบอกให้เห็นถึงแผนการออกแบบ ที่เหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริงของการกำเนิดจักรวาล ”
Reference :
Origins of nature : https://bit.ly/3v7oZED
New Proofs for the Existence of God : https://bit.ly/3dIaSj8
Fine-Tuning : https://bit.ly/32FbIqs
พระเจ้ามีจริง และพระองค์รักคุณ
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ แต่หากคุณได้เริ่มต้นแสวงหาพระเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเปิดเผยพระประสงค์ในชีวิตของคุณให้กับคุณได้รู้ พระองค์ต้องการช่วยคุณจริงๆ และในวันนี้ขอให้คุณได้เข้ามาหาพระองค์ สามารถพูดคุยกับเราเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/knowgod.in.th/