ตอบได้ทั้ง “ใช่” และ “ไม่ใช่”
“ใช่” อย่างไร?
จะว่าใช่ก็ได้ เพราะคงเป็นคำตอบที่เข้าใจง่ายที่สุด
เพราะหากคุณคือคนที่เปลี่ยนจากความเชื่อเดิม
มาเป็นคริสเตียนแล้ว
มีคนมาถามว่าคุณเปลี่ยนศาสนาหรอ
คุณก็คงตอบว่า “ใช่” อย่างไม่ลังเล
แต่จะว่าไม่ใช่ก็ได้ด้วยเช่นกัน
“ไม่ใช่” อย่างไร?
การมาเปลี่ยนคริสเตียนไม่ใช่
การเปลี่ยนศาสนาตรงที่ว่า
การมาคริสเตียนเป็นอะไรที่ลึกซึ้ง
มากกว่าเรื่องของศาสนา
เพราะสำหรับบางคนศาสนา
อาจจะเป็นเพียงสิ่งที่ถูกเขียนไว้
ในบัตรประชาชน
หรืออาจจะเป็นสิ่งที่ก็เกิด
และโตมากับการอยู่ในศาสนานี้แล้ว
ส่วนการ #เปลี่ยนมาเป็นคริสเตียนคือ
ก า ร เ ป ลี่ ย น วิ ถี ชี วิ ต
ซึ่งเป็นเหตุมาจากความเชื่อใหม่ (ความมั่นใจใหม่)
ความเชื่อใหม่นั่นคือ?
ซึ่งการตัดสินใจนี้ทำให้เกิดความมั่นใจใหม่ว่า
บาปกรรมต่างๆของคุณได้รับการไถ่แล้ว
จากการรับการช่วยเหลือจากพระเยซู
ฉะนั้นคริสเตียนที่เชื่อในการไถ่บาปของพระเยซู
ก็สามารถมั่นใจได้ถึงชีวิตหลังความตายว่า…
จะได้กลับไปอยู่กับพระเจ้าตลอดไปในสวรรค์
และได้มีความสัมพันธ์ใหม่กับพระเจ้า
ในฐานะพ่อลูกได้ตั้งแต่วินาทีแรก
ที่คุณตัดสินใจเชื่อและยอมรับ
การช่วยเหลือจากพระเยซู
ความเชื่อและความมั่นใจนี้
จึงส่งผลให้วิถีชีวิตของคุณ
เ ป ลี่ ย น ไ ป ต ล อ ด ก า ล
ส่งผลให้เกิดวิถีชีวิตใหม่อย่างไร?
หลักๆเลยก็คือ
จากที่คุณดำเนินชีวิตด้วยการพยายาม
หาวิธีการต่างๆนานาเพื่อช่วยให้ตัวเอง
หลุดพ้นจากบาปกรรมที่เคยมี
คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรอีกแล้ว
เพราะพระเยซูช่วยคุณแล้ว
แต่นั่นก็ #ไม่ควร เป็นเหตุผลที่คุณจะดำเนินชีวิตอย่างไรก็ได้
เพราะยังไงพระเยซูก็ช่วย นั่นคงเป็นทัศนคติที่ผิดอย่างร้ายแรง
และเบื้องหลังการช่วยเหลือของพระองค์
ไม่ได้เพียงแค่บอกว่าช่วย
แต่พระองค์แลกมาด้วยชีวิตของพระองค์
เพื่อให้คุณรอดพ้นจากบาปกรรมของคุณ
คุณคิดว่าถ้าใครสักคนแลกทั้งหมดที่เขามี
ในชีวิตของเขาเพื่อช่วยเหลือคุณ
จนคุณมีทุกวันนี้ได้ คุณจะดำเนินชีวิตอย่างไร?
“ถ้าเช่นนั้นแล้วเราจะว่าอย่างไร
ควรเราจะอยู่ในบาปต่อไปเพื่อให้พระคุณมีมากยิ่งขึ้นหรือ
ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย
พวกเราที่ตายต่อบาปแล้ว
จะมีชีวิตในบาปต่อไปอย่างไรได้” (โรม 6:1-2)
หากคุณเป็นคนนั้นที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่า
จะเชื่อและยอมรับการช่วยเหลือจากพระเยซูดีไหม?
และยังมีคำถามสงสัย #ทักมาถามเพจเราได้