สรุปคำแบ่งปันจากพิธีไว้อาลัย คุณแตงโม ภัทรธิดา(นิดา)พัชรวีระพงษ์ Ep2

==========================
สรุปคำแบ่งปันจากงานไว้อาลัย
คุณแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์
โดย ศจ.ชาติชาย จารุวาที
วันที่ 12 มีนาคม 2022 (วันที่ 2)
==========================
.
“…ครั้งนั้น ฉันหลง พระองค์ ตามหา ตาบอด แต่ฉัน เห็นแล้ว”
.
ชีวิตของโมนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับลมหายใจ ชีวิตของคริสเตียนทุกคนอยู่ในองค์พระเยซูคริสต์
.
ในสายพระเนตรของพระเจ้า…แตงโมมีชีวิตเดียว และเพียงพอ นั้นคือชีวิตนิรันดร์ในองค์พระเยซูคริสต์ที่ทำให้เธออยู่รอดปลอดภัยได้อย่างแท้จริง เธอคือลูกของพระเจ้า
.
ชีวิตคริสเตียนเปรียบเหมือนกับ…
.
————-
1. หนอนผีเสื้อ
————-
.
สภาพของหนอนไม่ใช่สภาพที่แท้จริงของผีเสื้อ หนอนเป็นเพียงแค่สภาพเริ่มต้นของผีเสื้อที่สวยงาม
.
ผมเคยเลี้ยงหนอนผีเสื้อ หนอนผีเสื้อจะค่อยๆแปรสภาพเป็นดักแด้ แล้วก็จะกลายเป็นผีเสื้อที่สวยงาม แต่ในระหว่างที่จะแปรสภาพจากดักแด้เป็นผีเสื้อนั้นใช้เวลานานพอควร จนผมสงสัยว่าหนอนตัวนี้ตายแล้วหรือไม่ จึงไปคุยกับอาจารย์ และอาจารย์ก็ว่า “ใจเย็นๆ รอก่อน มันยังไม่ถึงเวลา”แล้ววันนึงผมก็ตื่นขึ้นมาพบ ดักแด้ตัวนี้ได้กลายเป็นผีเสื้อ ที่ไม่ได้คลานไปบนพื้น หรือกินใบไม้อีกต่อไป แต่มันจะโบยบินไปหาสิ่งที่หอมหวนกว่าคือ น้ำหวานจากดอกไม้
.
ชีวิตคริสเตียนก็เป็นแบบนั้น ในขณะที่เราอยู่ในโลกนี้ เราก็เป็นเหมือนกับหนอนผีเสื้อ คุณคิดว่าคุณเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแล้วหรือ? คุณคิดว่ารถไฟความเร็วพาคุณเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดหรือ? ยังถือว่าเชื่องช้าเมื่อเทียบกับสภาพร่างกายใหม่ที่พระเจ้าจะประทานให้กับบุตรของพระองค์เมื่อพวกเขาเป็นขึ้นมาจากความตาย ในวันนี้เราอาจจะรู้ว่ากินอาหารอันโอชามากมาย มันก็แค่ใบไม้เท่านั้นแหละ แต่สักวันนึงคุณจะได้เป็นผีเสื้อที่จะได้กินน้ำหวาน กินสิ่งที่สูงส่งกว่าที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้
.
วันหนึ่งหนอนตัวนี้จะเปลี่ยนสภาพไปเป็นดักแด้ เป็นสภาพที่เหมือนจะไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอีกต่อไป เป็นสภาพที่ดูเหมือนว่าจะตายแล้ว แต่อันที่แล้วยังมีชีวิตอยู่ในดักแด้นั้น
.
วันนี้โมแค่เปลี่ยนสภาพเป็นดักแด้เท่านั้นเอง แต่โมยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อถึงวันที่พระเยซูทรงกำหนดไว้โมก็จะโบยบินออกมาในฐานะสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ตามพระสัญญาของพระองค์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ว่า
.
“ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย เพราะว่าจะมีการเป่าแตร และพวกที่ตายแล้วจะถูกทำให้เป็นขึ้นโดยปราศจากความเสื่อมสลาย แล้วเราจะถูกเปลี่ยนใหม่ เพราะว่าสิ่งที่เสื่อมสลายได้นี้ต้องสวมด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายไม่ได้ และสภาพที่ต้องตายนี้ต้องสวมด้วยสภาพที่ไม่ตาย เมื่อสิ่งที่เสื่อมสลายได้นี้สวมด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายไม่ได้และสภาพที่ต้องตายนี้สวมด้วยสภาพที่ไม่ตาย เมื่อนั้นพระวจนะที่เขียนไว้จะสำเร็จว่า “ความตายก็ถูกกลืนเข้าในชัยชนะแล้ว”‭‭ (1 โครินธ์‬ ‭15:52-54‬ ‭)
.
โมแค่อยู่ในดักแด้และรอคอยการมีชีวิตใหม่
.
.
————–
2. เด็กอนุบาล
————–
.
เวลาที่เด็กๆไปโรงเรียน ก็เหมือนกับการที่เราอยู่ในโลกนี้ เด็กอนุบาลโตขึ้นมาต้องออกไปนอกบ้าน บางทีก็ไม่อยากไป ไปที่โรงเรียน บางอย่างก็ไม่อยากกิน ใจอยากแต่ของอร่อยๆ แต่ก็ถูกบังคับจากคนนั้น คนนี้ให้กินสิ่งที่มีประโยชน์ร่างกาย ต้องทำนั้นทำนี้ตามหลักสูตรที่เขากำหนดไว้ บางครั้งเด็กอนุบาลก็ต้องพบกับการข่มเหงจากคนบางคน ทำให้รู้สึกไม่อยากไปเจอหน้าพวกเขาเลย แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็อยากใช้ชีวิตของเรา อยากสนุกสนานเล่นเฮอากัน
.
ผมได้ฟังเรื่องเด็กคนหนึ่ง วิ่งไปแล้วหกล้ม แล้วก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ไม่ว่าจะปลอบใจเท่าไหร่ก็ไม่หยุด จนกระทั่งคุณครูบอกว่า “ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวบ่ายๆคุณแม่คุณพ่อก็จะมารับกลับบ้านแล้ว” ทันทีที่ได้ฟังว่าคุณพ่อคุณแม่จะมารับกลับบ้าน เด็กคนนี้หยุดร้องไห้เลย แล้วก็ดริ่มมีความหวัง และนั่นแหละครับ ภาพของชีวิตคริสเตียน ทันทีที่เราได้ยินว่า… วันหนึ่งพระบิดาของเราจะมารับเราไปอยู่กับพระองค์ เราก็มีความหวังขึ้นมา และพร้อมที่จะดำเนินชีวิตต่อไป เหมือนในพระคัมภีร์ที่บอกว่า…
.
“ข้าพเจ้าเห็นว่าความทุกข์ลำบากแห่งสมัยปัจจุบัน ไม่ควรจะเอาไปเปรียบกับศักดิ์ศรีซึ่งจะเผยให้แก่เราในอนาคต”(โรม‬ ‭8:18‬)
.
“แล้วใครจะให้เราขาดจากความรักของพระคริสต์ได้? จะเป็นความทุกข์ หรือความยากลำบาก หรือการเคี่ยวเข็ญ หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย หรือการถูกโพยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ?” (โรม‬ ‭8:35‬)
.
“เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้” (โรม‬ ‭8:38-39‬)
.
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามกับชีวิตของคริสเตียนในโลกนี้ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะเจ็บปวดสักแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความรักของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของคริสเตียนคนั้นได้ วิธีการที่คริสเตียนจะจากโลกนี้ไป ไม่ได้กำหนดเส้นทางที่เขาจะดำเนินไป ไม่ได้กำหนดจุดหมายปลายทางที่เขาจะไป วิธีการที่เขาจากโลกนี้เป็นเพียงวิธีการใดวิธีการนึงที่ใครๆก็ต้องจากโลกนี้ไปได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ จุดหมายปลายทางที่เขาไปคือ บ้านที่คุณพ่อคุณแม่จะมารับเขากลับไป
.
.
————–
3. การวิ่งผลัด
————–
.
การวิ่งผลัดไม่ได้วัดกันที่ความเร็ว แต่วัดกันที่การร่วมมือกัน วิ่งผลัดจะประสบความสำเร็จก็เมื่อผู้วิ่งเรียนรู้ที่จะรับไม้ผลัดจากกันและกันได้อย่างถูกต้องลงตัว และเข้าจังหวะ
.
วันนี้น้องโมได้วิ่งมาจนถึงระยะเวลาที่พระเจ้าได้ทีงกำหนดแล้ว วันนี้โมร้องตะโกนบอกพวกเราว่า “ชูมือขึ้น รับไม้ผลัดจากโมด้วย โมวิ่งมาเต็มที่แล้ว”
.
วันนี้โมวิ่งมาจนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ขอให้เรารับไม้ผลัดนี้ และสานต่อสิ่งที่โมตั้งใจไว้ โมหวังว่าพวกเราจะรับไม้นี้ แล้วก็วิ่งต่อไปจนสุดกำลัง สุดเส้นทางที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ให้เราแต่ละคน เหมือนพระธรรม 2 ทิโมธี บทที่ 4 ข้อ 8
.
“ตั้งแต่นี้ไปมงกุฎแห่งความชอบธรรมก็จะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิพากษาที่ชอบธรรมจะประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และไม่ใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะประทานแก่ทุกคนที่รักการเสด็จมาของพระองค์” (2 ทิโมธี‬ ‭4:8)
.
.
หากคุณอยากรู้จักเรื่องราวพระเจ้ามากขึ้น
พูดคุยกับเราได้ที่ m.me/knowgod.in.th

สนใจรู้จักพระเจ้ามากขึ้น...?